วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2552

ความสุขของกะทิ


กะทิเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความสุขอยู่กับการใช้ชีวิตในแบบที่เป็น กล่าวคือ ด้วยความที่กะทิยังเป็นเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูอยู่ในชนบท อยู่กับตายายที่บ้านริมคลอง อยู่กับธรรมชาติ ใช้ชีวิตในแบบที่เรียบง่าย สมถะ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นได้หล่อหลอมให้กะทิอยู่ในสภาพสังคมเช่นนั้นได้โดย ปราศจากความต้องการโหยหาและไม่ได้หลงใหลได้ปลื้มกับสิ่งที่เด็กในเมืองทั้ง หลายต้องการ หรือที่เรียกกันว่า วัตถุนิยมกะทิใช้ชีวิตที่เรียบง่าย รับประทานอาหารที่อร่อยได้โดยไม่ต้องใช้วัตถุดิบราคาแพงอย่างอาหารใน ภัตตาคาร เล่นของเล่นที่หาได้ง่ายตามละแวกนั้น โดยไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าหาของเล่นสีสันสวยงามหรือตุ๊กตาแพง ๆ อย่างของเล่นที่วางขายเรียงรายบนห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางกรุง จะเห็นได้ว่ากะทิพึงใจที่จะใช้ชีวิตอยู่อย่างนั้นตามอัตภาพของตน ซึ่งสามารถทำให้กะทิมีความสุขได้ ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะว่ากะทิไม่ได้อยู่ในสังคมเมือง ที่ต่างฝ่ายต่างอยากได้ใคร่มี พ่อแม่ก็พยายามยัดเยียดความอยากได้ใคร่มีนั้นให้กับลูกของตน ด้วยเกรงว่าลูกอาจจะน้อยหน้าเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน อย่างไรก็ดี การที่พ่อแม่พยายามยัดเยียดสิ่งเหล่านั้นให้ลูก ก็ถือว่าเป็นการมอบความสุขให้แก่ลูกของตน โดยที่เด็กอาจจะไม่ได้เรียกร้อง แต่ก็ทำเด็ก ติด ค่านิยมความฟุ้งเฟ้อได้ จนเข้าใจไปว่านั่นคือความสุขของเด็กโดยทั่วไป แต่หากลองมองให้ถึงแก่นแท้แล้วจะเห็นได้ว่า สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นเป็นความสุขจอมปลอมที่เป็นเพียงความสุขชั่วครั้งชั่วคราว

ไม่มีความคิดเห็น: