วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552

กิ่งไผ่ใบรัก

ก่อน ออกเดินทาง จิตใจของเธอยังคงหยิ่งทะนง และความเชื่อมั่นก็ปักหลักแน่นเหนียวราวกับจะไม่มีวันคลายคลอน หากเมื่อเวลาพาเธอเดินผ่านมาถึงจุดนี้ อารตี กลับได้พบว่า ตลอดมานั้น เธอสามารถเย่อหยิ่งทะนงตนได้เพียงเพราะไม่เคยมีคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ ความเชื่อมั่นของเธอก็สามารถปักหลักแน่นเหนียวได้เพราะไม่เคยมีใครมีอิทธิพล มากพอที่จะโยกคลอนมัน ที่ร้ายก็คือหัวใจของเธอ...หัวใจซึ่งเคยคิดว่าแข็งแกร่งและชืดชา...ตลอดการ เดินทางครั้งนี้ มันกลับอ่อนไหวหลอมละลายลงได้อย่างเงียบๆ จนนับครั้งไม่ถ้วน!
ผลงานอีกหนึ่งเรื่องของนักเขียนคุณภาพอย่างปิยะพร เรื่อง กิ่งไผ่ - ใบรัก ที่พิมพ์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว เรื่องราวจะถูกอกถูกใจผู้อ่านหรือไม่ ต้องลองหามาอ่านกันค่ะ
ผู้แต่ง: ปิยะพร ศักดิ์เกษม
สำนักพิมพ์/จัดจำหน่าย : อรุณ
จำนวนหน้า: 401
ISBN : 9747074931
ส่งภายใน (วัน): 7

กว่าชีวิตนี้จะสิ้น


กว่าชีวิตนี้จะสิ้น
อะไรเป็นความโทมนัสอย่างสุดแสน อะไรเป้นความละอายจนแทบไม่อยากจะมีชีวิตอยุ่ของลูกผู้หญิง ยามเมื่อเสน่หาเอ่อท้นหัวอกจนสุดที่จะพรรณนา ตัดสินใจระเบิดรกนั้นออกมากับผู้ที่ตนคิดว่าเขาทั้งรักและเสน่หาในตน เมื่อพิสูจน์แน่ชัดไม่ใช่รัก เป็นเพียงปรารถนาชั่วคราว เสียงเพลง 'My Foolish heart' เหมือนเสียงเตือนหัวใจให้รู้ว่า โอ้ดวงใจของข้า ไยถึงได้มืดมน โฉดเขลาเช่นนี้ "จงรักเถิดเมื่อถึงคราวจะรักได้" ฉันจะจำคำนี้ของเธอไว้ด้วยน้ำตา แม้เวลาแห่งเราจะเลยผ่าน แต่เรื่องราวของเราจะคงอยู่เป็นนิรันดร์ ดำรงไว้ด้วยหัวใจที่ครวญเป็นคำรักไปจนกว่าชีวิตนี้จะสิ้น! - หนังสือ book กว่าชีวิตนี้จะสิ้น

วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2552

เขียนฝันด้วยชีวิต

บนถนนนักเขียน ประชาคม ลุนาชัยได้นำภาพอดีตที่ฝังลึกใต้ความทรงจำให้หยั่งรากอยู่ในผลงานเขียนของ เขาหลายต่อหลายเรื่อง ใครที่เคยอ่านงานของประชาคม มักจะได้กลิ่นอายของทะเล ชีวิตของลูกเรือลากอวน ติดตรึงแนบสนิทอยู่ในตัวอักษร เรื่องราวเหล่านั้นล้วนเป็นฉากแห่งชีวิตจริงของเด็กหนุ่มจากหนองคายที่เดิน ทางมุ่งสู่เมืองกรุง โดยไม่มีแม้บัตรประชาชนติดตัว นั่นยิ่งทำให้ยากยิ่งที่จะไปถึงจุดหมาย เขารับทำงานทุกอย่างตั้งแต่เสมียนของสำนักงานนายหน้าจัดหางาน, คนงานทำลูกชิ้น, คนแบกลังน้ำปลา, ยาม, ทำไร่ ฯลฯและต่อมานาวาได้พัดพาชีวิตของเขาระหกระเหินเร่ร่อนออกไปไกลแสนไกลจากฝั่ง หากไม่ได้ทำให้เขาไกลจากฝัน ประชาคมยัง อ่านและเขียนอยู่ทุกขณะใจ


ถนนสายใบไม้ร่วง

ถนน สายใบไม้ร่วง" ประภัสสร เขียนขึ้นยามที่เขาดำรงตำแหน่งเป็น อัคราชทูต อยู่ที่ประเทศ ชิลี ในเมือง ซันติอาโก เรื่องราว และบรรยากาศ สถานที่ภายในเรื่องจึงทำให้คนอ่านได้มองเห็นภาพของ กรุงซันติอาโก เหมือนกำลังได้ยิน ครู อาจารย์สอนอยู่หน้ากระดานดำ เมื่อบวกเข้ากับจินตนาการในรูปแบบของนิยาย เนื้อหาและวิถีชีวิตของคนชิลิ ในเมือง ซันติอาโก จึง มีชีวิตชีวา น่าติดตามเป็นอย่างมาก โดยเนื้อหาของ นิยายเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของคนกลุ่มเล็กๆที่มีชีวิต ผจญภัยและพบเห็นสิ่งต่างๆมาจนเข้าสู่วัยสุดท้ายที่เปรียบเสมือนใบไม้ที่ กำลังจะหล่นลาจากต้น เหตุการณ์ตลอดช่วงชีวิตของพวกเขาถึงถูกถ่ายทอดออกมาอย่างออกรสออกชาติ ให้ทั้งความสนุกสนาน รื่นเริง กินใจ และให้ทั้งความรอบรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ของคนชิลี ในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวร้อยแปดตลอดช่วงเวลานับเป็นสิบๆปี



วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2552

ฟ้าจรดทราย


ขอยกเรื่องนี้ให้เป็นที่สุดแห่งความประทับใจ เพราะตั้งแต่เริ่มอ่านนิยาย แม่ก็บอกว่าต้องอ่านเรื่องนี้ให้ได้นะ พี่สาวซึ่งเป็นเซียนนิยายอีกคนก็แนะนำเรื่องนี้ เรียกว่าแนะนำกันจากรุ่นสู่รุ่นกันเลยทีเดียว หลังจากอ่านเรื่องนี้เราก็โดนเสน่ห์แห่งทะเลทรายทำพิษ จนต้องตามอ่านเรื่องที่เกี่ยวกับทะเลทรายอื่นๆ เช่น โกบี เจ้าชาย รัศมีจันทร์
พูดถึงมิเชลล์กับชารีฟ คู่รักในฝันของใครหลายคน แต่ไม่ใช่ ยายจิ๊เพื่อนเราแน่(ขออภัยที่เอ่ยนาม) เขาชอบคู่ของอะไรน้า…ลิลลี่กับ…ลืมไปแล้ว จากเรื่องโกบี ใครรู้ช่วยบอกที เราชอบหลายคู่ ถ้าให้ยกมาซักคู่ตอนนี้ก็คงเป็นคู่ของเมยานีกับแงซายจากเพชรพระอุมา แม้เมยานีจะโผล่มาตอนสุดท้ายของภาคแรก แต่ก็ประทับใจจ๊อด โอ้…แม่นักรบหญิงของเดี๊ยน

วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2552

ความสุขของกะทิ


กะทิเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความสุขอยู่กับการใช้ชีวิตในแบบที่เป็น กล่าวคือ ด้วยความที่กะทิยังเป็นเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูอยู่ในชนบท อยู่กับตายายที่บ้านริมคลอง อยู่กับธรรมชาติ ใช้ชีวิตในแบบที่เรียบง่าย สมถะ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นได้หล่อหลอมให้กะทิอยู่ในสภาพสังคมเช่นนั้นได้โดย ปราศจากความต้องการโหยหาและไม่ได้หลงใหลได้ปลื้มกับสิ่งที่เด็กในเมืองทั้ง หลายต้องการ หรือที่เรียกกันว่า วัตถุนิยมกะทิใช้ชีวิตที่เรียบง่าย รับประทานอาหารที่อร่อยได้โดยไม่ต้องใช้วัตถุดิบราคาแพงอย่างอาหารใน ภัตตาคาร เล่นของเล่นที่หาได้ง่ายตามละแวกนั้น โดยไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าหาของเล่นสีสันสวยงามหรือตุ๊กตาแพง ๆ อย่างของเล่นที่วางขายเรียงรายบนห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางกรุง จะเห็นได้ว่ากะทิพึงใจที่จะใช้ชีวิตอยู่อย่างนั้นตามอัตภาพของตน ซึ่งสามารถทำให้กะทิมีความสุขได้ ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะว่ากะทิไม่ได้อยู่ในสังคมเมือง ที่ต่างฝ่ายต่างอยากได้ใคร่มี พ่อแม่ก็พยายามยัดเยียดความอยากได้ใคร่มีนั้นให้กับลูกของตน ด้วยเกรงว่าลูกอาจจะน้อยหน้าเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน อย่างไรก็ดี การที่พ่อแม่พยายามยัดเยียดสิ่งเหล่านั้นให้ลูก ก็ถือว่าเป็นการมอบความสุขให้แก่ลูกของตน โดยที่เด็กอาจจะไม่ได้เรียกร้อง แต่ก็ทำเด็ก ติด ค่านิยมความฟุ้งเฟ้อได้ จนเข้าใจไปว่านั่นคือความสุขของเด็กโดยทั่วไป แต่หากลองมองให้ถึงแก่นแท้แล้วจะเห็นได้ว่า สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นเป็นความสุขจอมปลอมที่เป็นเพียงความสุขชั่วครั้งชั่วคราว

ความทรงจำแห่งรัก


Sweetheart ความทรงจำแห่งรัก
เพราะเฉียดเข้าใกล้ความตายด้วยตัวเองมาแล้ว เขาจึงคิดได้ว่า...ในชีวิตนี้ ดูเหมือนจะไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่า 'ความรัก' ปักชินยาง พระเอกหนุ่มเกาหลีชื่อดัง จึงคิดโปรเจ็กต์ใหญ่ขึ้นมา และหนังสือในมือคุณนี้ก็เป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ความรักของเขา ที่ชื่อว่า 'Sweetheart' เรื่องราวความรักงดงามของชายและหญิงคู่หนึ่ง ใครจะคิดว่า 'เขา' ที่เป็นแค่นักเดินทางคนหนึ่งจะมาตกหลุมรักศิลปินสาวในเมืองต่างถิ่นที่สะดุด ตาตั้งแต่แรกเห็น และใครจะเชื่อว่า 'เธอ' ก็ยินยอมมอบหัวใจทั้งหมดที่มีให้กับชายแปลกหน้าคนนี้อย่างรวดเร็ว ความรักของเขาและเธอไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขใด ๆ นอกจากหัวใจเท่านั้น ติดตามความประทับของเขาทั้งคู่ได้พร้อมภาพประกอบสีสวยงามค่ะ - หนังสือ book Sweetheart ความทรงจำแห่งรัก